tag:blogger.com,1999:blog-68991833550500952032024-03-08T07:25:45.778-08:00ความยุติธรรมAnonymoushttp://www.blogger.com/profile/06714419481437479020noreply@blogger.comBlogger1125tag:blogger.com,1999:blog-6899183355050095203.post-60819838849416841532012-06-20T21:01:00.001-07:002012-06-27T20:52:16.129-07:00ความยุติธรรม<br />
<strong><span style="color: #351c75;">เรียกร้องความยุติธรรม ‘ฝ้าย’ ร่ำไห้! ครวญอย่าป้องคนผิด ท้า ‘แด๊ก’ ตรวจดีเอ็นเอใหม่ ( ข่าวบันเทิง )</span></strong><br />
<br />
<span style="font-family: inherit;">ถึงกับช็อคทีเดียวเมื่อทราบผลการตรวจดีเอ็นเอที่ทางสถาบันนิติเวชฯ ระบุมาว่า ด.ช.ธนะโชค ไชยมงคล หรือ ‘น้องจัสติน’ ไม่ใช่ลูกของนักร้องหนุ่ม ‘แด๊ก บิ๊กแอส’ โดยอดีตนางแบบนู้ด ฝ้าย-ฟารีดา เผยว่าพบพิรุธมากมาย พร้อมทั้งเรียกร้องความยุติธรรม ขอตรวจดีเอ็นเอใหม่พร้อมกัน 3 คน </span><br />
<span style="font-family: inherit;">หลังสถาบันนิติเวชฯ ได้ออกมาแถลงข่าวยืนยันผลการตรวจดีเอ็นเอของนักร้องหนุ่ม แด๊ก บิ๊กแอส กับอดีตนางแบบนู้ด ฝ้าย-ฟารีดา และลูกชายวัย 5 เดือนเศษ ‘น้องจัสติน’ อย่างเป็นทางการว่า แด๊ก บิ๊กแอส ไม่ได้เป็นพ่อของน้องจัสติน เมื่อทราบข่าว ฝ้าย-ฟารีดา ออกอาการช็อคไม่ยอมรับผลการตรวจ และเรียกร้องให้นักร้องหนุ่มออกมาตรวจใหม่พร้อมกัน 3 คน ถ้าผลครั้งใหม่ออกมาเหมือนครั้งแรก เจ้าตัวก็จะก้มหน้ายอมรับ</span><br />
<span style="font-family: inherit;"><span style="color: #cc3366;">‘หนูไม่เชื่อผลการตรวจครั้งนี้ค่ะ คิดว่าการตรวจครั้งนี้ไม่ยุติธรรม เพราะไม่ได้ตรวจพร้อมกัน 3 คน แล้ววันที่หนูไปตรวจก็ได้พูดกับทางสถาบันฯแล้วว่า ห้ามไปบอกใครว่าหนูพาจัสตินไปตรวจดีเอ็นเอ แต่ปรากฏว่าหนูเป็นคนสุดท้ายที่รู้ผล ทั้งที่เขาบอกว่าหนูจะรู้ผลเป็นคนแรก แต่ทำไมหนูถึงรู้เป็นคนสุดท้าย</span>’</span><br />
<span style="color: #993366; font-family: inherit;">‘ผลที่ออกมาถ้าจัสตินไม่ใช่ลูกเขา ก็ต้องไม่ใช่เลยทั้งหมด ทำไมบอกว่าใช่ 7 จุด ไม่ใช่ 9 จุด หนูงงอ่ะ เพราะหนูไม่ใช่แพทย์ ถ้าลูกหนูไม่ใช่สายเลือดเขา ก็ต้องไม่ใช่ทุกจุด ทำไมมีใช่แค่ 7 จุด แล้วไม่ใช่อีกตั้ง 9 จุด หนูไม่เข้าใจเหมือนกัน และเขาก็ไม่ได้อธิบายอะไรให้หนูฟังเลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหนูไม่ได้กล่าวหาใครนะคะ หนูไม่ได้พาดพิงถึงใคร และไม่ได้โทษใคร หนูแค่ขอความยุติธรรมเท่านั้น มันเป็นความคิดของหนู เป็นความคิดของเด็กโง่ๆ คนหนึ่ง หนูก็คิดของหนูแบบนี้’</span><br />
<span style="font-family: inherit;"> ‘ตอนแรกเขาบอกว่าอีก 3 อาทิตย์ผลถึงจะออกมา แต่ผลกลับออกเมื่อวาน หนูก็เลยเอะใจ ขนาดของแด๊กที่ไปตรวจยังรออาทิตย์หนึ่งเลย ของหนูไปตรวจวันที่ 4 พ.ค.แล้วผลออกวันที่ 9 พ.ค. มันใช้เวลาแค่ 5 วันเอง ทำไมผลถึงออกมาเร็วแบบนี้ มันยังไม่ถึง 3 อาทิตย์เลย หนูไม่ทราบเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น ที่สำคัญพี่ชลลดา ที่เป็นเจ้าหน้าที่ที่ดูแลผลการตรวจที่นิติเวชฯ บอกว่า จะรักษาคำพูดให้ดีที่สุด เขาจะบอกผลหนูเป็นคนแรก แต่นี่หนูกลับรู้เป็นคนสุดท้าย มันหมายความว่ายังไง’</span><br />
<span style="font-family: inherit;">‘หนูอยากจะพิสูจน์อีกครั้ง ถึงวันนั้นหนูกล้าที่จะยอมรับความจริงนะ แต่ตอนนี้มันไม่ยุติธรรม ดูยังไงก็ไม่ยุติธรรม ซึ่งวันนี้ (10 พ.ค.) แด๊กจะไปรับฟังข้อกล่าวหา แต่มันเหมือนเจตนาจะให้ผลดีเอ็นเอออกมาวันที่ 9 พวกเขาเล่นอะไรกันอยู่ อยากให้เขาสงสารเด็กตาดำๆ คนหนึ่งบ้าง หนูอยากจะวอนผู้ใหญ่อย่าปกป้องคนผิดเลย นึกซะว่าสงสารหนูกับลูก เห็นแก่อนาคตของเด็กตาดำๆ คนหนึ่งเถอะ เขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย’</span><br />
<span style="font-family: inherit;"><strong>พอผลออกมาแบบนี้มีผลกระทบยังไงบ้าง???</strong><br /> ‘หนูกระทบนะ บอกตรงๆ หนูสงสารลูก ตั้งแต่ตอนท้องจนถึงคลอดหนูไม่เคยได้รับความช่วยเหลือจากผู้ชายคนนี้ แล้วผลออกมาแบบนี้ (เสียงสั่นเครือเริ่มร้องไห้) หนูยอมรับว่าสิ่งที่กำลังจะทำ สิ่งที่หนูกำลังพูด มันคือความจริง (พูดกระแทกเสียง) แต่ไม่มีใครเชื่อหนูเลยอ่ะ หนูก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน หนูพูดเลยนะว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่หนูทำไป มันคือความจริง ถ้าไม่แน่ใจไม่ใช่ความจริง หนูไม่เอาอนาคตหนูกับลูกไปแลกหรอก ถ้าหนูแลกไปแล้วไม่ได้อะไรกลับคืนมากับชีวิต หนูก็คงไม่ทำ’ </span><br />
<span style="font-family: inherit;">‘หนูคงต้องปรึกษากับทางมูลนิธิปวีณาอีกที คิดว่าเร็วๆ นี้น่าจะไปตรวจใหม่ เพราะอยากพิสูจน์ความจริงให้ทุกคนรู้ ถ้าไปตรวจอีกครั้ง หนูมีข้อแม้ว่าขอให้เขามาตรวจพร้อมกัน 3 คน และในวันที่ตรวจต้องให้สื่อมวลชนไปเป็นพยานด้วย และถ้าเป็นไปได้หนูอยากให้ผลออกมาวันนั้นเลย ถ้าแด๊กไม่ยอมไป ก็สุดแท้แล้วแต่บุญแล้วแต่วาสนาของจัสตินละกันนะลูกนะ แม่ก็ทำดีที่สุดแล้ว (ก้มลงไปจูบลูกแล้วพูด)’ </span><br />
<span style="font-family: inherit;">‘และถ้าผลออกมาอีกครั้งว่า จัสตินไม่ใช่ลูกเขา หนูก็พร้อมจะรับตรงนั้น หนูกล้าที่จะเผชิญ และยอมรับสภาพ หนูก็จะก้มหน้าก้มตาเลี้ยงจัสตินต่อไป หนูจะเลี้ยงลูกของหนูให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าแด๊กยื่นมือมาจะขอรับผิดชอบ ไปบอกเขาเลยว่าไม่เป็นไรค่ะ (กระแทกเสียง) เก็บความหวังดีของเขาไว้เถอะ มันสายไปแล้ว มันไม่จำเป็นสำหรับชีวิตหนูกับลูกอีกแล้ว ถึงแม้จะใช่หนูก็ไม่ต้องการแล้ว ที่ออกมาทุกวันนี้ไม่เคยอยากได้เงินทองจากเขาเลยสักบาทเดียว ตั้งแต่ท้องมาจนคลอดไม่เคยได้รับการหยิบยื่น ไม่เคยได้รับน้ำใจจากผู้ชายคนนี้เลยสักนิดเดียว นี่ไง?หาบทสรุปของเรื่องนี้ให้แล้ว แต่บทสรุปมันไม่สวยงามเลยนะ มันไม่ยุติธรรมสำหรับหนูเลย’</span><br />
<span style="font-family: inherit;"><strong>หลังทราบผลแล้วแด๊กได้ติดต่อมามั้ย???</strong><br /> ‘ไม่มีเลยค่ะ ทางแกรมมี่ฯก็ไม่ได้ติดต่อมา ส่วนทางมูลนิธิปวีณาก็ยังไม่ได้ช่วยเหลืออะไร มีแค่โทรมาถามบ้างนิดหน่อย เพราะว่าหนูยังไม่ได้โทรไปปรึกษาอะไรเขา ถามว่ากลัวเขาจะปล่อยลอยแพเราหรือเปล่า ก็มีบ้างนิดหน่อย เราคิดอยู่ในส่วนลึกๆ แต่ไม่ได้คิดมากเกินไป แต่คิดว่าเขาคงไม่ปล่อยเราหรอก เพราะที่ผ่านมาเขาก็ช่วยเหลือเราเต็มที่’</span><br />
<span style="font-family: inherit;"><strong>มีข่าวว่าช่วงที่คบกับแด๊ก ฝ้ายไม่ได้คบแด๊กคนเดียว???</strong><br /> ‘คนเดียวค่ะ หนูยืนยันว่าคนเดียว นั่นมันคืออดีตของหนู แต่ตอนที่หนูอยู่กับแด๊ก หนูก็อยู่กับแด๊กคนเดียว ไม่เคยมีสัมพันธ์กับผู้ชายคนไหนเลย แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่หนูทำไปวันนี้ หนูทำเพื่อความถูกต้อง มันคือความจริง (กระแทกเสียง) ถึงแม้ว่าความจริงนี้จะไม่ค่อยสำเร็จเท่าที่ควร แต่ก็ไม่เป็นไร?..หนูภูมิใจ (เสียงสั่นเครือ) ที่ทุกวันนี้หนูสู้อยู่กับความจริง’</span><br />
<span style="font-family: inherit;">‘หนูแค่อยากให้สังคมรับรู้ ถามว่าจะเรียกร้องอะไรมั้ย ไม่เรียกร้อง เพราะไม่รู้จะเรียกร้องไปทำไม ในเมื่อจิตใจเขาไม่ต้องการหนูกับลูก หนูก็ไม่ต้องการเขาเช่นกัน หนูไม่เคยต้องการผู้ชายคนนี้ด้วย ที่หนูฟ้องร้องเขาไม่ใช่เพราะเขาเป็นบิ๊กแอสนะ ถ้าแด๊กไม่เป็นบิ๊กแอส แด็กก็เป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่มีความหมายอะไรอยู่แล้ว หนูเฉยๆ กับเขา ขออย่างเดียวอย่าพูดว่ากันในทางที่ไม่ดีเลย หนูไม่เคยเรียกร้องอะไรจากพี่เลยนะ พี่พูดกับหนูดีๆ บ้างก็ได้นะ เวลาออกไปพูดกับพี่ๆ นักข่าว พูดทำให้หนูดูดีบ้างก็ได้ หนูยังไม่เคยพาดพิงถึงพี่เลย’</span><br />
<span style="font-family: inherit;"><strong>กลัวสังคมภายนอกมองเราไม่ดีมั้ย???</strong> ‘หนูไม่กลัว หนูไม่ใช่คนมีชื่อเสียง อนาคตหนูยังไม่รู้เลยว่าจะเป็นยังไง หนูไม่แคร์เพราะคิดว่าทำดีที่สุดแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือหนูจะเลี้ยงลูกของหนูให้ดีที่สุด’ </span><br />
<span style="font-family: inherit;"><strong>มีข่าวว่าที่ฝ้ายออกมาให้ข่าวนี้เพราะอยากดัง???</strong><br /> ‘ไม่จริงค่ะ หนูไม่เคยอยากดังเลย ถ้าเกิดลูกหนูไม่ใช่ลูกของแด๊กนะ ชีวิตหนูก็คงมีค่าและมีความหมายมากกว่านี้ ดีกว่ามานั่งเป็นข่าวแบบนี้’</span><br />
<span style="font-family: inherit;"><strong>เรื่องคดีที่ฟ้องร้องแด๊กไปถึงไหนแล้ว???</strong><br /> ‘ก็คงต้องเดินหน้าต่อไ ปแต่หนูไม่ทราบว่าผลการตรวจครั้งนี้จะมีผลต่อรูปคดีหรือเปล่า แต่ทางตำรวจบอกว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หนูก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมเจตนาของเขาต้องให้ผลการตรวจออกมาวันที่ 9 ด้วย ซึ่งจริงๆ หนูขอให้ทางโน้นเร่งผลให้หนูหน่อย เขาบอกว่าต้องรออีก 3 อาทิตย์ แล้วจู่ๆ ผลออกมาวันที่ 9 มันคืออะไรอ่ะ มันเป็นไปได้ยังไง แล้วทำไมเขาไม่แจ้งทางหนูเลย อยู่ดีๆ พวกพี่รู้กันก่อนหนู ทั้งที่หนูเป็นคนไปตรวจ’ </span><br />
<span style="font-family: inherit;">‘ก็ในเมื่อคุณมั่นใจว่าเป็นอย่างนั้นก็ไม่เป็นไร ถ้าคุณมั่นใจก็ออกมาตรวจพร้อมกัน 3 คน พ่อ-แม่-ลูก จะได้รู้กันไปเลยว่าอะไรคือความจริง อะไรคือความถูกต้อง ดีกว่าคุณพูดแบบนี้แล้วไม่กล้าออกมา มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย หรือดีกว่าคุณมาพูดข้างๆ คูๆ ว่า ไม่มีความสัมพันธ์กันเลย มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะไม่มีความสัมพันธ์กัน?..คนอื่นก็รู้ คุณหลอกใครก็หลอกได้ แต่คุณหลอกตัวคุณเองไม่ได้หรอก’ </span><br />
<span style="font-family: inherit;"><strong>มีภาพปาปารัซซี่แด๊กควงสาวอื่น ฝ้ายรู้จักหรือเปล่า???</strong><br /> ‘รู้จักค่ะ รู้จักดีด้วย รู้สึกว่าผู้หญิงคนนั้นจะเป็นดีเจอยู่ที่ร้านกระฉูดชื่อ ‘ดีเจจ๋า’ หนูรู้มาตั้งนานแล้วว่า เขาแอบมีสัมพันธ์กันลึกซึ้ง แต่ก็ไม่คิดอะไร คิดแค่ว่าในเมื่อใจเขาไม่อยู่กับเรา ก็ต้องปล่อยเขาไป หนูไม่ได้รู้จักผู้หญิงคนนั้นเป็นการส่วนตัว แค่แอบเห็นเขาจีบกัน วันที่เขาจีบกันวันแรกหนูก็อยู่ด้วย ตอนนั้นเขายังคบกับหนูอยู่ แล้วเราก็ไปเที่ยวร้านกระฉูดด้วยกัน มีเพื่อนพี่แด๊กชื่อ ‘พี่ตุ้ม’ ไปด้วย แด๊กก็เข้าไปขอเบอร์ดีเจคนนั้นตรงหน้าบูธดีเจ หนูเห็นหนูรับรู้ทุกอย่างในสิ่งที่เขาทำ แต่หนูคิดว่าไม่เป็นไรหรอก คิดซะว่าเขาเป็นคนแบบนี้ อะไรก็เปลี่ยนเขาไม่ได้ นอกจากตัวเขาเอง ถ้าเขายังเลิกนิสัยแบบนี้ไม่ได้ เราก็ต้องเข้าใจเขา ทำเป็นเฉยๆ ไม่เห็นไปซะ’ </span><br />
<span style="font-family: inherit;"><strong>รู้สึกน้อยใจบ้างมั้ย???</strong> <br /> ‘รู้สึกเฉยๆ แล้วค่ะ เหมือนแก้วที่ร้าวไปแล้ว จะเอามาประกอบหรือต่อให้ติดใหม่เหมือนเดิมก็คงจะไม่ได้ ถามว่าเกลียดเขาเลยมั้ย ไม่ถึงกับเกลียด แต่ว่าไม่อยากเจอ และไม่อยากพบกันอีกเลย เสียใจนะ?.คนเคยรักกัน เขาเคยบอกว่า?.รักฝ้ายนะ รักอย่างโน้นอย่างนี้ นี่เหรอคนรักกันเขาทำกันแบบนี้เหรอ ไม่มีผู้หญิงคนไหนทนยืนดูแด๊กจูบปากผู้หญิงอื่นต่อหน้า ตรงหน้าร้านขายกาแฟในซอยลาดพร้าวซอย 2 ได้หรอก’</span><br />
<span style="font-family: inherit;">‘เรื่องนี้เกิดขึ้นนานแล้ว ตั้งแต่ช่วงตั้งท้องแต่ตอนนั้นแด๊กยังไม่รู้ว่าท้อง ซึ่งผู้หญิงคนนั้นเป็นคนละคนกับดีเจจ๋า รู้สึกว่าเขาจะเป็นลูกนายพล หรือลูกนายตำรวจนี่แหละ วันนั้นเขาทั้งจูบทั้งกอดรัดฟัดเหวี่ยง เพื่อนๆ ในวงเขาก็เห็นกัน วันนั้นพี่ตูน บอดี้แสลมก็ไปด้วย ส่วนฝ้ายก็ยืนมองเขา เพราะว่าอะไรล่ะ?.เพราะคิดว่าเพื่อคนที่เรารัก เราทนได้ ถึงเขาจะทำให้เราเจ็บปวดขนาดไหนก็ตาม พอเขาร่ำลากันเสร็จ แด็กก็เดินมากอดหนูบอกว่า?..อย่าคิดมากนะ เรารักเธอนะ แต่เธอจะรักเราเหรอ เราเกเรอย่างนี้ แล้วก็ไปส่งที่ห้อง คือเขาเป็นคนเจ้าชู้ ถามว่าเห็นแก่ตัวมั้ย ก็เห็นแก่ตัวนะ?.เขารักตัวเองมากกว่าที่จะรักคนอื่น’ </span><br />
<span style="font-family: inherit;"><strong>สภาพจิตใจตอนนี้เป็นยังไง???</strong><br /> ‘ท้อแท้นะ เหนื่อยด้วย แต่ไม่เป็นไรค่ะ หนูจะสู้เพื่อลูก ถามว่าร้องไห้มั้ย?บ่อยเลย ร้องทุกวัน เมื่อคืนก็ไม่ได้นอนเพราะเครียด หนูเคยคิดนะว่าถ้าหนูกับลูกตายไปจากโลกนี้ คงจะได้ความจริงและความยุติธรรมจากเรื่องนี้ แต่หนูก็ให้กำลังใจตัวเองว่าทำเพื่อลูก เห็นหน้าลูกก็ดีใจแล้ว ภูมิใจแล้วที่ทำให้เขาเกิดมาแล้วสามารถเลี้ยงเขา ให้เขาอยู่ได้จนทุกวันนี้ ตอนนี้หนูเข้มแข็งแล้ว เวลามันผ่านมาจะเป็นปีแล้ว ตั้งแต่ท้องได้หลายเดือนหนูก็ไม่ได้เจอแด๊กแล้ว ที่ผ่านมาเราเสียใจกับการกระทำของเขามาโดยตลอด แต่ตอนนี้หนูไม่รู้สึกอะไรแล้วกับผู้ชายคนนี้’</span><br />
<strong><span style="color: #ff0066; font-family: inherit;">‘ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ สิ่งแรกที่หนูอยากแก้ไขคือจะเชื่อฟังพ่อแม่ อย่างที่สองถ้าเลือกได้คงจะทำงานกลางวัน จะไม่ทำงานเกี่ยวกับถ่ายแบบเดินแบบ อย่างที่สามจะกลับไปเรียนต่อ และอย่างที่สี่อยากจะย้อนกลับไปไม่รู้จักผู้ชายคนนี้ซะดีกว่า’</span></strong><br />
<span style="font-family: inherit;"><strong>วันหนึ่งถ้าลูกถามถึงพ่อจะบอกลูกว่ายังไง???</strong><br /> ‘ถ้าเขาโตขึ้นมา หนูก็จะบอกเขาว่า พ่อเขาเสียชีวิต ไม่มีชีวิตอยู่ในโลกนี้แล้ว หนูคงจะไม่บอกเขาหรอกว่า พ่อเขาเป็นบิ๊กแอส ซึ่งเรื่องนี้คนที่รู้ดีที่สุดคือตัวเขากับตัวหนู ถ้าจะโกหกหลอกคนอื่นน่ะหลอกได้ แต่เราสองคนหลอกใจตัวเองไม่ได้หรอก ความจริงก็คือความจริง ถึงไม่รู้วันนี้แต่ต่อไปข้างหน้า ก็ต้องมีคนรู้ความจริงสักวันหนึ่งแหละ’</span><br />
<span style="font-family: inherit;"></span><br />
<strong><span style="font-family: inherit;">ข้อมูลจาก : www.gossipstar.com</span></strong>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/06714419481437479020noreply@blogger.com0